เปิดตระกูลดังตุนที่ดินทั่วไทย "เจริญ"อู้ฟู่6.3แสนไร่ ระทึกคลังชงเก็บภาษี.
วันที่ : 20/07/2014 จำนวนผู้ชม : 1,334
# เปิดโผราชาที่ดินตระกูลดัง-องค์กรใหญ่ ตะลึง "สิริวัฒนภักดี" อู้ฟู่มีแลนด์แบงก์ในพอร์ตกว่า 6.3 แสนไร่ "เจียรวนนท์" ตุน 2 แสนไร่ ธุรกิจ-กลุ่มทุนไม่น้อยหน้า "สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม" ม้ามืด 4.4 หมื่นไร่ ฟากนักการเมือง "บรรหาร" ครองแชมป์ "เสนาะ" ตามมาติด ๆ ส่วนคลังดันเต็มที่ชง คสช.คลอดกฎหมายภาษีที่ดินใน 1 ปี ฝันปั้นรายได้เข้าท้องถิ่น
ปีละกว่า 9 หมื่นล้าน "นักวิชาการ-เอ็นจีโอ" หนุนกระจายถือครองที่ดินลดความเหลื่อมล้ำ
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า การผลักดันประกาศบังคับใช้ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ... (พร็อพเพอร์ตี้แทกซ์) ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แทนการบังคับใช้ พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 และ พ.ร.บ.ภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 ซึ่งล้าสมัย กำลังถูกจับตามองว่าจะสำเร็จหรือไม่ หลังจากใช้ความพยายามผลักดันมากว่า 15 ปีก็ยังไม่สำเร็จ
ทั้งที่ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ฐานจัดเก็บภาษีครอบคลุมมากขึ้น ให้ท้องถิ่นจัดเก็บภาษีเพื่อกระจายรายได้ ขณะเดียวกันมีเป้าหมายสำคัญคือลดการกักตุนที่ดินของนายทุน โดยกรณีถือครองที่ดินแต่ปล่อยรกร้างไม่ได้ทำประโยชน์ จะต้องเสียภาษีในอัตราไม่ต่ำ 0.5% ของฐานภาษี (คำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดิน) และกรณีที่ปล่อยให้ที่ดินรกร้างจะถูกปรับภาษีขึ้น 1 เท่าทุก 3 ปี แต่มีเพดานสูงสุดไม่เกิน 2% ของฐานภาษี หากผลักดันสำเร็จจะช่วยสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยได้มาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลศึกษาโดยกลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน (องค์กรพัฒนาเอกชน) จากการวิจัยและเก็บข้อมูลการถือครองเอกสารสิทธิ จากสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ กรมที่ดิน พบว่าตระกูลดัง เศรษฐี กลุ่มธุรกิจ กลุ่มทุน ถือครองที่ดินทั้งแปลงเล็กแปลงใหญ่จำนวนมาก กระจายอยู่หลายพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองหลัก เมืองท่องเที่ยว
วิธีการถือครองมีทั้งทยอยซื้อที่ดินเก็บไว้ในมือ โดยค่อย ๆ สะสมจากแปลงเล็กเป็นแปลงใหญ่ และการกว้านซื้อที่โดยอาศัยกลุ่มนายหน้าและเครือข่ายธุรกิจ ทั้งที่ดินว่างเปล่า ที่ทำการเกษตร ที่นา ฯลฯ ขณะเดียวกันจากเดิมที่มักปล่อยที่ดินที่ซื้อไว้ในพอร์ตเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา กลุ่มเศรษฐกิจ ตระกูลดังแห่ลงทุนด้วยการปรับเปลี่ยนหน้าดินทำการเกษตร โดยเฉพาะยางพารา ปาล์มน้ำมัน รวมทั้งพืชสวน พืชไร่หลากหลายชนิด ฯลฯ รับยุคบูมยางพารา ปาล์มน้ำมัน และเร่งใช้ประโยชน์ที่ดินแทน หลังเริ่มมีกระแสผลักดันจัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้าสำหรับที่ดินที่ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างว่างเปล่า
สอดรับกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ ตระกูลดัง หลายกลุ่มในช่วงที่ผ่านมา ที่มีการขยายฐานสู่ธุรกิจการเกษตร อสังหาริมทรัพย์ อาทิ กลุ่มตระกูลสิริวัฒนภักดี เจียรวนนท์ พูลวรลักษณ์ จุฬางกูร เตชะณรงค์ ภิรมย์ภักดี ฯลฯ ขณะที่ตระกูลนักการเมืองทั้งระดับชาติ ระดับท้องถิ่น ตลอดจนนักธุรกิจ นักลงทุนทั้งในส่วนกลาง ต่างจังหวัด ก็หันมารุกด้านการเกษตรรับกระแสบูมจำนวนมากเช่นเดียวกัน
เปิดโผที่ดินนักการเมือง
ส่วนในกลุ่มนักการเมือง จากการสำรวจพบผู้ถือครองที่ดินจำนวนมาก อาทิ นายอำนาจ คลังผา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย2,030 ไร่, นายบรรหาร ศิลปอาชา จากพรรคชาติไทย 2 พันไร่ อยู่ในบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ และนนทบุรี, นายเสนาะ เทียนทอง และนางอุไรวรรณ เทียนทอง 1,900 ไร่, นายอนุชา บูรพชัยศรี 1,284 ไร่
นายอดิศักดิ์ โภคสกุลนานนท์ 1,197 ไร่ นายทศพร เทพบุตร ถือครองที่ดิน 1,095 ไร่, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี 1,095 ไร่, นายสุชน ชามพูนท 1,060 ไร่, นายชัย ชิดชอบ และภรรยา 854 ไร่, นายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ 755 ไร่ ฯลฯ
ถือที่ดินเกิน 1 พันไร่กระจุกตัว
"ผศ.ดร.ดวงมณี เลาวกุล" นักวิชาการจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ศึกษาวิจัยข้อมูลการถือครองที่ดินที่มีโฉนด เมื่อปี 2555 พบว่าประเทศไทยมีที่ดินทั้งหมด 319.82 ล้านไร่ในจำนวนนี้เป็นที่ดินมีเอกสารสิทธิโดยกรมที่ดิน 40% หรือ 130.74 ล้านไร่ ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นที่ป่าสงวนฯ 144.54 ล้านไร่ ที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และที่ดินราชพัสดุ 9.78 ล้านไร่
ผลวิจัยระบุด้วยว่า ประเทศไทยมีผู้ครอบครองที่ดินรวม 1.59 ล้านรายเศษ แบ่งเป็นในนามบุคคลธรรมดา 15.68 ล้านราย และนิติบุคคล เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฯลฯ อีก 2.12 แสนราย ส่วนถ้าจำแนกตามปริมาณการถือครองที่ดิน (ณ ปี 2555) มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า ประเทศไทยมีผู้ถือครองที่ดินตั้งแต่ 1-10 ตารางวา รวม 2.85 แสนราย คิดเป็นสัดส่วน 1.8% ของทั้งหมด ในจำนวนนี้แบ่งเป็นในนามบุคคลธรรมดา 2.84 แสนรายและนิติบุคคล 1.9 พันราย
ขณะที่ผู้ที่ถือครองที่ดินเกินกว่า 1 พันไร่ขึ้นไป มีจำนวนรวม 837 ราย คิดเป็น 0.01% ในจำนวนนี้แบ่งเป็นบุคคลธรรมดา 359 ราย และนิติบุคคล 478 ราย สะท้อนถึงการถือครองที่ดินกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มคนเพียงบางกลุ่ม ส่วนกลุ่มใหญ่คือผู้ที่ถือครองที่ดินตั้งแต่กว่า 1-5 ไร่ มีจำนวน 3.48 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน 21.9% ในจำนวนนี้แบ่งเป็นถือในนามบุคคลธรรมดา 3.43 ล้านราย และในรูปแบบนิติบุคคล 5.09 หมื่นราย
แหล่งที่มาข่าว : คลิ้กที่ลิ้งค์ได้เลยครับ